วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อาหารยอดนิยมของประเทศอาเซียน

          เวลาใกล้เที่ยงนี้ เราก็คงเริ่มหิวกันบ้างแล้ว วันนี้มีอาหารยอดนิยมของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนมาฝากกัน
อาหารยอดนิยมของบรูไน
                                   
       อัมบูยัต (Ambuyat) เป็นอาหารยอดนิยมของบรูไน มีลักษณะเด่นอยู่ที่ตัวแป้งจะเหนียวข้นคล้ายข้าวต้ม หรือโจ๊ก โดยมีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก ตัวแป้งอัมบูยัตเอง ไม่มีรสชาติ แต่ความอร่อยจะอยู่ที่การจิ้มกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด เช่น ผักสด เนื้อห่อใบตองย่าง หรือเนื้อทอด ทั้งนี้ การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติ ต้องรับประทานตอนร้อน ๆ จึงจะดีที่สุด
อาหารยอดนิยมของกัมพูชา
                                   
       อาม็อก (Amok) เป็นอาหารคาวยอดนิยมของกัมพูชา มีลักษณะคล้ายห่อหมกของไทย โดยเป็นการนำเนื้อปลาสด ๆ ลวกพริกเครื่องแกง และกะทิ แล้วทำให้สุกโดยการนำไปนึ่ง ซึ่งนอกจากจะใช้เนื้อปลาแล้ว อาจเลือกใช้เนื้อไก่แทนก็ได้ ส่วนสาเหตุที่คนในประเทศกัมพูชานิยมรับประทานปลา เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของกัมพูชามีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ทำให้ปลาเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่ายนั่นเอง
อาหารยอดนิยมของอินโดนีเซีย
                                   
       กาโด กาโด (Gado Gado) อาหารยอดนิยมของประเทศอินโดนีเซีย ประกอบไปด้วยผัก และธัญพืชหลากหลายชนิด ทั้งแครอท มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ถั่วงอก ถั่วเขียว นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้ และไข่ต้มสุกด้วย กาโด กาโดจะนำมารับประทานกับซอสถั่วที่คล้ายกับซอสสะเต๊ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยเครื่องสมุนไพรในซอส อาทิ รากผักชี หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ทำให้เมื่อรับประทานแล้วจะไม่รู้สึกเลี่ยนกะทิมากจนเกินไปนั่นเอง
อาหารยอดนิยมของลาว
                                    
      สลัดหลวงพระบาง (Luang Prabang Salad) เป็นอาหารขึ้นชื่ออีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีรสชาติกลาง ๆ ทำให้รับประทานได้ทั้งชาวตะวันออก และตะวันตก โดยส่วนประกอบสำคัญคือ ผักน้ำ ซึ่งเป็นผักป่าที่ขึ้นตามริมธารน้ำไหล และยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น  มันแกว แตงกวา มะเขือเทศ ไข่ต้ม ผักกาดหอม และหมูสับลวกสุก ส่วนวิธีปรุงรสคือ ราดด้วยน้ำสลัดชนิดใส คลุกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และถั่วลิสงคั่ว
อาหารยอดนิยมของมาเลเซีย
                                  
       นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) อาหารยอดนิยมของประเทศมาเลเซีย โดยนาซิ เลอมัก จะเป็นข้าวหุงกับกะทิ และใบเตย ทานพร้อมเครื่องเคียง 4 อย่าง ได้แก่ ปลากะตักทอดกรอบ แตงกวาหั่น ไข่ต้มสุก และถั่วอบ ซึ่งนาซิ เลอมักแบบดั้งเดิมจะห่อด้วยใบตอง และมักทานเป็นอาหารเช้า แต่ในปัจจุบัน กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่ทานได้ทุกมื้อ และแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายแห่ง เช่น สิงคโปร์ และภาคใต้ของไทยด้วย
อาหารยอดนิยมของฟิลิปปินส์
                                    
      อโดโบ้ (Adobo) เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ที่ผ่านการหมัก และปรุงรส โดยจะใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ

      ในอดีตอาหารจานนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทาง เนื่องจากส่วนผสมของอโดโบ้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เหมาะสำหรับพกไว้เป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันอโดโบ้ได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่นำมารับประทานกันได้ทุกที่ทุกเวลา
อาหารยอดนิยมของสิงคโปร์
                                  
       ลักซา (Laksa) อาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ลักซามีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิ ทำให้รสชาติเข้มข้น คล้ายคลึงกับข้าวซอยของไทย โดยลักซาจะมีส่วนผสมของ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารทะเลเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ลักซามีทั้งแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ ทว่า แบบที่ใส่กะทิจะเป็นที่นิยมมากกว่า
อาหารยอดนิยมของไทย
                                  
      ต้มยำกุ้ง (Tom Yam Goong)  แค่เอ่ยชื่อก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ต้มยำกุ้งเป็นอาหารคาวที่เหมาะสำหรับรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบในต้มยำกุ้ง นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี

      และเนื่องจากต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่มีรสเปรี้ยว และเผ็ดเป็นหลัก ทำให้รับประทานแล้วไม่เลี่ยน จึงทำให้ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงชาวต่างชาติเองก็ติดอกติดใจในความอร่อยของต้มยำกุ้งเช่นเดียวกัน
อาหารยอดนิยมของเวียดนาม
                                    
      ปาะเปี๊ยะเวียดนาม  (Vietnamese Spring Rolls) ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังที่สุดของประเทศเวียดนาม ความอร่อยของเปาะเปี๊ยะเวียดนาม อยู่ที่การนำแผ่นแป้งซึ่งทำจากข้าวจ้าวมาห่อไส้ ซึ่งอาจจะเป็นไก่ หมู กุ้ง หรือหมูยอ โดยนำมารวมกับผักสมุนไพรอีกหลายชนิด เช่น สะระแหน่ ผักกาดหอม และนำมารับประทานคู่กับน้ำจิ้มหวาน โดยจะมีถั่วคั่ว แครอทซอย ไชเท้าซอย ให้เติมตามใจชอบ และบางครั้งอาจมีเครื่องเคียงอย่างอื่นเพิ่มด้วย
อาหารยอดนิยมของพม่า
                                     
       หล่าเพ็ด (Lahpet) เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า โดยการนำใบชาหมักมาทานกับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่าง ๆ งาคั่ว กุ้งแห้ง ขิง มะพร้าวคั่ว เรียกได้ว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับเมี่ยงคำของประเทศไทย ซึ่งหล่าเพ็ดนี้ จะเป็นเมนูอาหารที่ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ ๆ ของประเทศพม่า โดยกล่าวกันว่า หากงานเลี้ยง หรืองานเฉลิมฉลองใด ไม่มีหล่าเพ็ด จะถือว่าการนั้นเป็นงานที่ขาดความสมบูรณ์ไปเลยทีเดียว
           สำหรับใครที่เดินทางไปในประเทศต่างๆในอาเซียนก้อย่าลืมไปลองชิมกันบ้างนะคะ เผื่อว่าอาจจะติดใจเลยก็ได้

ดอกไม้ประจำชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน

        ในโอกาสที่เรากำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน วันนี้ก็มีความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ประจำแต่ละประเทศที่เป็นสมาชิกมาฝากกันนะคะ

ดอกไม้ประจำชาติของบรูไน
                                   
       ดอกไม้ประจำชาติบรูไน ก็คือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia) ดอกไม้ประจำท้องถิ่นบรูไน ที่มีกลีบขนาดใหญ่สีเหลือง หากบานเต็มที่แล้วกลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่ม พบเห็นได้ตามแม่น้ำทั่วไปของบรูไน มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผล หากใครแวะไปเยือนบรูไน จะพบเห็นได้จากธนบัตรใบละ 1 ดอลลาร์ ของประเทศบรูไน และในงานศิลปะพื้นเมืองอีกด้วย
ดอกไม้ประจำชาติของกัมพูชา
                                   
       กัมพูชามีดอกไม้ประจำชาติเป็น ดอกลำดวน (Rumdul) ดอกไม้สีขาวปนเหลืองนวล กลีบดอกหนาทึบและแข็งเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเย็นแบบกรุ่น ๆ ถูกจัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งเพราะมีความหมายถึงความสดชื่นหอมกรุ่น และเป็นดอกไม้สำหรับสุภาพสตรี วิธีปลูกที่ถูกต้อง ต้องปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวบ้าน ที่สำคัญต้องปลูกในวันพุธ ด้วยนะ
ดอกไม้ประจำชาติของอินโดนีเซีย
                                   
       ดอกไม้ประจำชาติอินโดนีเซีย คือ ดอกกล้วยไม้ราตรี (Moon Orchid) ซึ่งเป็นหนึ่งในดอกกล้วยไม้ที่บานอยู่ได้นานที่สุด โดยช่อดอกนั้นสามารถแตกกิ่งและอยู่ได้นาน 2-6 เดือน โดยดอกจะบานแค่ปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ดอกกล้วยไม้ราตรีสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศชื้น จึงพบเห็นได้ง่ายในพื้นที่ราบต่ำของประเทศอินโดนีเซีย
ดอกไม้ประจำชาติของลาว
                                    
       ดอกไม้ประจำชาติประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างประเทศลาว คือ ดอกจำปาลาว (Dok Champa) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดอกลีลาวดี หรือ ดอกลั่นทม โดยดอกจำปาลาวมักมีสีสันหลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเพียงสีขาวเท่านั้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีแดง หรือสีโทนอ่อนต่าง ๆ โดยดอกจำปาลาวนั้นเป็นตัวแทนของความสุขและความจริงใจ จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อประดับประดาในงานพิธีต่าง ๆ รวมทั้งใช้เป็นพวงมาลัยเพื่อรับแขกอีกด้วย
ดอกไม้ประจำชาติของมาเลเซีย
                                  
       สำหรับประเทศมาเลเซียนั้น มีดอกไม้ประจำชาติเป็น ดอกพู่ระหง (Bunga Raya) ในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า บุหงารายอ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ดอกชบาสีแดง ลักษณะกลีบดอกเป็นสีแดง มีเกสรยื่นยาวออกมาเหนือดอก ซึ่งถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความอดทนในชาติ โดยเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้สูงส่งและสง่างาม รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์และความงามได้อีกด้วย
ดอกไม้ประจำชาติของฟิลิปปินส์
                                    
       ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาวกลีบดอกเป็นรูปดาว มีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืน ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งอีกด้วย เคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองในตำนานเรื่องเล่ารวมทั้งบทเพลงของฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน
ดอกไม้ประจำชาติของสิงคโปร์
                                  
      ประเทศสิงคโปร์ มี ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกกล้วยไม้แวนด้าตั้งชื่อตามผู้ผสมพันธุ์ คือ Miss Agnes Joaquim จัดเป็นดอกกล้วยไม้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีสีม่วงสดสวยงามและเบ่งบานอยู่ตลอดทั้งปี โดยถูกจัดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 (พ.ศ.2524)
ดอกไม้ประจำชาติของไทย
                                  
       ดอกไม้ประจำชาติไทยของเรา ก็คือ ดอกราชพฤกษ์ (Ratchaphruek) ที่มีสีเหลืองสวยสง่างาม เมื่อเบ่งบานแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ซึ่งชาวไทยหลายคนรู้จักกันดีในนามของ ดอกคูน โดยมีความเชื่อว่าสีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์คือสีแห่งพระพุทธศาสนาและความรุ่งโรจน์ รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีปรองดองของคนในชาติอีกด้วย โดยดอกราชพฤกษ์จะเบ่งบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม มีจุดเด่นเวลาเบ่งบานคือการผลัดใบออกจนหมดต้น เหลือไว้เพียงแค่สีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์เท่านั้น
ดอกไม้ประจำชาติของเวียดนาม
                                    
      ประเทศเวียดนาม มีดอกไม้ที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ดอกบัว (Lotus) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกบัวเป็นที่รู้จักกันในนาม “ดอกไม้แห่งรุ่งอรุณ” เป็ญสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความผูกพัน และการมองโลกในแง่ดี ดอกบัวจึงมักถูกกล่าวถึงในบทกลอนและเพลงพื้นเมืองของชาวเวียดนามอยู่บ่อยครั้ง
ดอกไม้ประจำชาติของพม่า
                                     
       ดอกไม้ประจำชาติของประเทศพม่า คือ ดอกประดู่ (Paduak) เป็นดอกไม้ที่พบมากในประเทศพม่า มีสีเหลืองทอง ผลิดอกและส่งกลิ่นหอมในฤดูฝนแรก ช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศพม่ามีการเฉลิมฉลองปีใหม่ขึ้น ชาวพม่าเชื่อว่าดอกประดู่คือสัญลักษณ์ของความแข็งแรง ความทนทาน และเป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในพิธีทางศาสนาของชาวพม่าเลยล่ะ่

แบบฝึกหัดบทที่8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

แบบฝึกหัดบทที่ 8

          คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้

1. "นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address  โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักทดลอง" การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
ตอบ ผิดในแง่จริยธรรม เพราะว่าทำให้บุคคลอื่นได้รับความเดือดร้อน ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่เรารู้จักแต่เราก็ไม่ควรที่จะไปแกล้งเขา ยิ่งนำไปส่งต่อ ยิ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนกับหลายบุคคล

2. "นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆอีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J" การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
ตอบ ผิดในแง่จริยธรรม เพราะเป็นการให้ความรู้ที่ผิดๆ ยิ่งผู้ศึกษาเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยแล้ว ยิ่งต้องบอกต้องสอนให้เข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่นำความรู้นั้นไปเผยแพร่อีกต่อไป และสำหรับผู้ที่สร้างโฮมเพจ หากทำขึ้นเพื่อความสนุกสนาน ควรหมายเหตุไว้ให้ชัดเจนด้วย เพื่อความเข้าใจตรงกัน

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แแบฝึกหัดบทที่7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 7

1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ รูปแบบของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ที่ถูกจัดตั้งอยู่บนเครือข่ายเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายภายใน (Internet) โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion) ที่มาจากเครือข่ายภายนอก (Internet)

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer , spy ware , adware มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม
ตอบ worm หนอนคอมพิวเตอร์ ลักษณะการบุกรุกคือจะแย่งใช้ทรัพยาการของคอมพิวเตอร์ เช่น เขียนไฟล์ขยะลงบนฮาร์ดดิสก์ จนทำให้ฮาร์ดดิสก์เต็ม

3. ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ตอบ 2 ชนิด ได้แก่ 1. Application viruses จะมีผลหรือมีการแพร่กระจายไปยังโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ
                           2. System viruses จะติดหรือแพร่กระจายในโปรแกรมจำพวกระบบปฏิบัติการ

4. ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
     1) มีการเข้ารหัสข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
     2) เปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) บ่อยๆ หรืออย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
     3) ไม่ควรคลิกที่ hyperlink ใดๆ หรือรันไฟล์ใดๆ ที่มากับอีเมลหรือโปรแกรมสนทนาต่างๆจากคนที่ไม่รู้จัก
     4) ในการกรอกข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญใดๆ ที่เว็บไซต์หนึ่งๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นเว็บไซต์ที่ถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งเว็บไซต์ที่ปลอดภัยจะใช้โปรโตคอล https:// แทน http://
     5) ติดตั้งโปรแกรมตรวจสอบไวรัส เพื่อป้องกันการรับอีเมลที่ไม่พึงประสงค์หรือการสื่อสารจากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต

5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน ได้แก่
ตอบ ได้แก่ ICT Gate Keeper เฝ้าระวังพิษภัยอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายและวงจรเชื่อมต่อระหว่างประเทศ และ House Keeper ซึ่งจัดทำเป็นแผ่นซีดีรอม และแจกฟรีให้กับผู้ปกครองหรือดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที

แบบฝึกหัดบทที่6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

แบบฝึกหัดบทที่ 6


1.การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด
    1. เทคโนโลยีสารสนเทศ    2. เทคโนโลยี   3. สารสนเทศ   4. พัฒนาการ
ตอบ 1. เทคโนโลยีสารสนเทศ

2.เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลทางด้านความเท่าเทียมกันในสังคม
     1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
     2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
     3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
     4. การพยากรณ์อากาศ
ตอบ 2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล

3.การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด
     1. ระบบอัตโนมัติ
     2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
     3. เทคโนโลยีสารสานเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
     4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตอบ 1. ระบบอัตโนมัติ

4.ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
     1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
     2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
     3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
     4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4. ถูกทุกข้อ


5.เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด
     1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
     2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
     3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
     4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
ตอบ 4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล


6.เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร
     1. เทคโนโลยีการสื่อสาร  2. สารสนเทศ  3. คอมพิวเตอร์  4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4. ถูกทุกข้อ

7.ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
     1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
     2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่ยนสั่งสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
     3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
     4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
ตอบ 4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ


8.ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ
     1. เครื่องถ่ายเอกสาร  2. เครื่องโทรสาร  3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์  4. โทรทัศน์ วิทยุ
ตอบ 1. เครื่องถ่ายเอกสาร


9.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
     1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
     2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
     3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
     4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวติประจำวันมากขึ้น
ตอบ 3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

10.ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน
     1. ตรวจสอบผลการเรียน ผลการสอบได้
     2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
     3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
     4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4. ถูกทุกข้อ

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่5 การจัดการสารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 5

1.จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
ตอบ การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การโดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบายหรือกลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ

2.การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
ตอบ ต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิต คือ มีความก้าวหน้า และมีความสุข
    ต่อองค์การ คือ ประกอบการทำงานทั้งระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ

3.พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
ตอบ 2 ยุค คือ การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือและการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์

4.จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
ตอบ การลงทะเบียนเรียนของนิสิต การยืมคืนหนังสือห้องสมุด ระบบสอบถามผลการเรียน

วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่4 เทคโนโลยีสารสนเทศ


แบบฝึกหัดบทที่4


1.ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน

   1)การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล เช่น  แฟลชไดร์  แผ่นเทป กล้องถ่ายภาพ เป็นต้น
   2)การแสดงผล เช่น เครื่องพิมพ์ จอภาพ พลอตเตอร์ เป็นต้น
   3)การประมวลผล เช่น เครื่องคิดเลข ฮาร์ดแวร์ CPU เป็นต้น
   4)การสื่อสารและเครือข่าย เช่น โทรศัพท์ วิทยุ โทรทัศน์ เป็นต้น

2.ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน

     8     ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (8.โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท)                          
     3      Information Technology (3.เทคโนโลยีต่างๆที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้)              
     1     คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล (1.ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
     6      เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย (6.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
    10     ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน  (10.ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ  )       
     7      ซอฟต์แวร์ระบบ (7.โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในระบบคอมพิวเตอร์)                               
     9      การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมิเดียที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ (9.CAI)
    5       EDI  (5.การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย )                                           
    4       การสื่อสารโทรคมนาคม  (4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และ Decoder)                 
    2       บริการชำระภาษีออนไลน์  (2.e-Revenue)                   

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่3 การเรียนรู้สารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 3

1.ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการเรียนรู้สารสนเทศ
   ก.ความสามารถในการกลั่นกรอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
   ข.ความสารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
   ค.ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
   ง.ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ
ตอบ...ง.

2.จากกระบวนการของการเรียนรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการใหนสำคัญที่สุด
   ก.ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
   ข.ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
   ค.ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
   ง.ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบ...ง.

3.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
   ก.สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
   ข.สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
   ค.ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
   ง.ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศได้
ตอบ...ค.

4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
   ก.โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากขึ้น
   ข.ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
   ค.สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
   ง.ช่วยบุคคลเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ตอบ...ก.

5.ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
   1.ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
   2.ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
   3.ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
   4.ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
   5.ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
       ก.1-2-3-4-5       ข.2-4-5-3-1       ค.5-4-1-2-3       ง.4-3-5-1-2
ตอบ...ค.

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม

แบบฝึกหัดบทที่2

1) ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่างๆ ตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ 3 รายการ
       1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
             1.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) http://www.trf.or.th/research/
             2.สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ http://www.nrct.net
             3.ฐานข้อมูลการวิจัยการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม http://www.thaiedresearch.org

       1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
             1. http://www.thaiepay.com/
             2. http://www.scb.co.th/th/home
             3. http://www.ktb.co.th/ktb/th/index.aspx

       1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน
             1. http://www.thairath.co.th/
             2. http://www.thaitv3.com/
             3. http://www.ch7.com/

       1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
             1.http://www.thaifoundry.com/
             2.http://www.thaigarment.org/
             3.http://www.tca.or.th/

       1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
             1.http://www.amed.go.th/
             2.http://www.tmc.or.th/
             3.http://www.rajavithi.go.th/web2014/

       1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ
             1.http://www.royalthaipolice.go.th/index01.php
             2.http://www.policeadmission.org/Main/FrmPolIndex.aspx
             3.http://www.police4.go.th/king1/king/

       1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
             1.http://www.coe.or.th/e_engineers/coeindex.php
             2.http://www.engineerthailand.com/
             3.http://www.eit.or.th/

       1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาด้านเกษตรกรรม
             1.http://www.kasetporpeang.com/
             2.http://www.kasetloongkim.com/
             3.http://www.farmkaset.org/contents/?content=00155

       1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
             1.http://nep.go.th/
             2.http://www.service-pwdsthai.com/
             3.http://www.pwdsthai.com/

2) มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีออะไรบ้างบอกมาอย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
       1.http://tdc.thailis.or.th/tdc/ โครงการเครือข่ายห้องสมุดในประเทศไทย
      2.http://www.elearning.msu.ac.th/  สำนักคอมพิวเตอร์
      3.http://reg.msu.ac.th/registrar/home.asp ระบบลงทะเบียน

3) ข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
       1. สามารถเข้าค้นหาหนังสือที่ต้องการจะอ่านได้ทันที
       2. สามารถเข้าเว็บไซต์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ได้
       3. เว็บไซต์ระบบลงทะเบียนสามารถแจ้งเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการศึกษา

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดบทที่1 แนวคิดและแนวโน้มเกี่ยวกับข้อมูลสารสนเทศยุคใหม่

แบบฝึกหัดบทที่ 1 

1.ข้อมูลหมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผลซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชือนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น

2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม หรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะได้จากการสอบถาม การสัมภาษณ์ การสำรวจ การจดบันทึก ตลอดจนการจัดหามาด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติต่างๆ ที่ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลให้ ยกตัวอย่างเช่น งานวิจัย การทดลอง เป็นต้น

3.ข้อมูลทุติยภูมิคือ  ข้อมูลที่ได้จากการนำข้อมูลปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่  เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ  ยกตัวอย่างเช่น หนังสือตำรา บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ เป็นต้น

4.สารสนเทศหมายถึง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความ อย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้


5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ
     1. สารสนเทศปฐมภูมิ (primary sources)  หมายถึง  สารสนเทศที่เรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เขียน หรือเป็น ผลการค้นคว้าวิจัย  นำเสนอความรู้ใหม่ ๆ  ได้แก่  รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์  เอกสารการปฏิบัติงาน  รายงานการประชุมทางวิชาการ   บทความวารสารวิชาการ   เอกสารสิทธิบัตร   เอกสารมาตรฐาน  เอกสารจดหมายเหตุ

     2. สารสนเทศทุติยภูมิ (secondary sources) หมายถึง  สารสนเทศที่ได้จากการนำสารสนเทศปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่  เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ  ได้แก่ หนังสือทั่วไป  หนังสือตำรา  หนังสือคู่มือการทำงาน   รายงานความก้าวหน้าทางวิทยาการ บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ  วารสารสาระสังเขป เป็นต้น
     
     3. สารสนเทศตติยภูมิ (tertiary sources) หมายถึง สารสนเทศที่ชี้แนะแหล่งที่อยู่ของสารสนเทศปฐมภูมิและทุติยภูมิ  จะให้ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสารสนเทศ  ได้แก่หนังสือนามานุกรม  บรรณานุกรม  และดัชนีวารสาร เป็นต้น

6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อมูลรูปภาพเสียงคือ ข้อมูล

7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น สารสนเทศ

8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น ข้อมูล

9. ผลของการลงทะเบียนเป็น สารสนเทศ

10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวันSection วัน อังคารเป็น สารสนเทศ

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

เคล็ดลับการเลือกแว่นให้เหมาะกับหน้าคุณผู้ชาย

                 ในปัจจุบันเรื่องแฟชั่นไม่ได้เป็นเรื่องของผู้หญิงเท่านั้น วันนี้เรามีความรู้เรื่องแฟชั่นการสวมใส่แว่นตาเก๋ๆ หล่อๆ มาฝากคุณผู้ชายกันค่ะ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแว่นตาเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยป้องกันแสงแดดที่แรงชึ้นทุกวันๆ และยังเป็นการเสริมบุคลิกของผู้ที่สวมใส่อีกด้วย หากเราเลือกใส่แว่นตาที่ไม่เหมาะสมกับใบหน้าก็อาจทำให้บุคลิกที่จะเป็นไปในทางที่ดีอาจจะตรงกันข้ามก็เป็นได้ ไปดูกันเลย!!!

สำหรับหนุ่มๆที่หน้ารูปสี่เหลี่ยม [Square Face Shape]

หนุ่มคนใดที่มีทรงหน้าแบบนี้ แนะนำว่าควรลือกใส่แว่นตาที่ทำให้หน้าดูยาวขึ้น และไม่เน้นช่วงกรามเกินไป เช่น แว่นตาที่มีกรอบกว้างๆ แว่นตาทรงกลม หรือ ทรงมน จะทำให้หน้าคุณผู้ชายดูเรียวมากขึ้น



สำหรับหนุ่มๆรูปหน้าทรงกลม [Round Face Shape]

ปัญหาหลักๆของหนุ่มๆใบหน้าแบบนี้ มักจะมีแก้ม แต่ไม่มีคาง แว่นตาที่สามารถแก้ไขหน้ารูปทรงกลมได้ เช่น แว่นตาที่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และควรหลีกเลี่ยงอย่างมากกับแว่นตาสั้น


สำหรับหนุ่มๆรูปหน้าทรงยาว [Oblong Face Shape]

ผู้ชายรูปหน้ายาว เป็นผู้ชายที่มีหน้าผากยาวและไม่มีแก้ม ช่วงคางก็แคบ แนะนำให้เลือกแว่นตาที่มีช่วงยาว หรือแว่นตาโตๆ ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ยิ่งทำให้หน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้น


สำหรับหนุ่มๆหน้ารูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด [Diamond Face Shape]

รูปหน้าทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด มีลักษณะและคางแคบ แต่มีโหนกแก้มกว้าง แนะนำให้หาแว่นตาทรงกลม หรือ ทรงรี จะช่วยให้รูปหน้าเข้าที่เลยทีเดียว


สำหรับหนุ่มๆหน้ารูปทรงไข่ [Oval Face Shape]

หนุ่มหน้ารูปทรงไข่ เป็นผู้ชายที่ดชคดีมาก เพราะใส่แว่นได้แทบจะทุกแบบ เป็นรูปหน้าที่เพอร์เฟคมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแว่นทรงเหลี่ยม หรือแว่นทรงกลม แค่ไม่ควรเลือก แว่นผู้ชายใหญ่มากจนเกินไปเท่านั้นเอง


และต่อไปเมื่อคุณผู้ชายทั้งหลายได้ทราบข้อมูลนี้แล้วคงจะดูดีกันทั่วหน้า

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

เคล็ดลับการเลือกใส่ต่างหูให้เหมาะสมกับรูปหน้า

             การแต่งตัวให้ดูดี ไม่จำเป็นต้องใช้ของแบรนด์เนม สาวๆก็สวยได้ วันนี้มีเคล็ดลับการเลือกใส่ต่างหูให้เหมาะสมกับรูปหน้าของเรามาฝากกันค่ะ

สำหรับสาวหน้ารูปทรงกลม

ต่างหูที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือรูปวงรี เพื่อช่วยเน้นให้ใบหน้าดูยาวรีขึ้น และต่างหูที่เป็นระย้า ยาวๆก็สามารถที่จะช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้นได้เช่นกันทั้งยังช่วยให้ลำคอแลดูยาวระหงขึ้นอีกด้วย สาวใบหน้ากลมไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใส่ต่างหูที่มีขนาดเล็ก กลม เพราะจะทำให้ใบหน้าดูกลมไปหมดนะคะ


สำหรับสาวหน้ารูปเหลียม

ต่างหูรูปทรงกลม ทรงรี ต่างหูแบบเป็นห่วงกลมๆ หรือมีแป้นกลม เหมาะสำหรับสาวหน้าเหลี่ยมมาก เพราะจะทำให้ใบหน้าของเราดูกลมขึ้น และไม่ควรที่จะใส่ต่างหูที่เป็นทรงเหลี่ยมนะคะ เดี๋ยวจะเป็นเหลี่ยมไปหมด


สำหรับสาวหน้ารูปหัวใจ

ควรที่จะใส่ต่างหูรูปหยดน้ำ หรือต่างหูที่มีทรงสามเหลี่ยมปลายยอดชี้ขึ้น หรือต่างหูที่มีด้านบนเล็กด้านล่างใหญ่ นั่นเอง เพื่อความสมดุลของใบหน้าที่มีช่วงบนหรือหน้าผากกว้างแต่ส่วนล่างของใบหน้าแคบหรือคางแหลมนั่นแหละค่ะ


และสุดท้าย สำหรับสาวที่มีหน้ายาวรี หรือสาวหน้าเล็กแคบ

ต่างหูที่เหมาะสมกับสาวหน้ารีๆ คือ ต่างหูทรงเหลี่ยม หรือ ต่างหูทรงกลม หรือรูปดอกไม้กลมๆ สวยๆ ก็เลิศไปอีกแบบนะคะ เพราะจะเป็นการเพิ่มสมดุลของใบหน้าอันรีของสาวๆ แต่ไม่ควรใส่ต่างหูที่เป็นระย้า ทรงรี หรือหยดน้ำ เพราะจะไปเพิ่มความยาวรีของใบหน้าขึ้นอีกค่ะ
คราวนี้ สาวๆก็คงรู้และเลือกใส่ต่างหูที่เหมาะสมกับตัวเองแล้วนะคะ ^0^